ประวัติผู้จัดทำ
วนิดา ไกรสังข์ ม6/5 เลขที่11
BROWNIE REDVELVET
วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2561
แคลอรี่ของบราวนี่
Source | Calories |
---|---|
Protein(cal) | 19 |
Carb(cal) | 256 |
Fat(cal) | 147 |
ข้อมูลโภชนาการ
หนึ่งหน่วยบริโภค 100g
คุณค่าทางโภชนาการต่อหนึ่งหน่วยบริโภค
พลังงานทั้งหมด 405
พลังงานจากไขมัน 147% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน*
ไขมันทั้งหมด 16.3g25%
ไขมันอิ่มตัว 4.2g21%
ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 2.3g
ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 9g
ไขมันทราน Fat g
คลอเรสเตอรอล 17mg 6%
โซเดียม 286mg
12%
โพแทสเซียม 149mg
8%
คาร์โบไฮเดรตทั้งหมด 63.9g 21%
ใยอาหาร 2.1g 8%
น้ำตาล 36.6g
โปรตีน 4.8g 10%
วิตามินเอ 1%
วิตามินซี 0%
แคลเซียม 3%
เหล็ก 13%
โทษของบราวนี่
โทษของบราวนี่
1. ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงช็อกโกแลตมี เฟนิลไธลามิน, ธีโอโบรไมน์ และกาเฟอีน อีกทั้งช็อกโกแลตสำเร็จรูปที่วางขายกันทั่วไปนั้น มีการแต่งกลิ่นและสี รวมทั้งเพิ่มน้ำตาลเข้าไปไม่น้อยเพื่อให้ขนมมีรสหวานมากๆ และการรับประทานช็อกโกแลตจำนวนมากๆ ก็เท่ากับว่าเราได้รับน้ำตาลมากเกินควร
2. อาจทำให้เกิดโรคอ้วน เพราะช็อกโกแลตให้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินเอ ดี เค และธาตุเหล็กค่อนข้างสูง หากทานมากเกินไป อาจทำให้เป็นโรคอ้วนได้
3. เกิดอาการแพ้ช็อกโกแลต ถ้ารับประทานมากเกินไป จะเกิดสิวกลางจมูก ซึ่งคืออาการแพ้
แต่เมื่อไม่นานมานี้มีการค้นพบสารฟลาโวนอยด์ในช็อกโกแลต
หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมจะมีส่วนช่วยป้องกัน การเกิดโรคหัวใจหรือแม้กระทั่งมะเร็งบางชนิด และยังพบว่ายังมีสรรพคุณช่วยให้คลายเครียด เนื่องจากมีสารไปกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเคมีแห่งความสุขที่ชื่อเอ็นโดรฟินออกมา ช่วยทำให้รู้สึกอารมณ์ดี
ดังนั้น ชาวยุโรปส่วนใหญ่เชื่อว่า การกินช็อกโกแลตจะทำให้สุขภาพแข็งแรงและมีอายุยืนยาว อีกทั้งยังสามารถช่วยลดไข้รักษาอาการอาหารไม่ย่อยและช่วยให้มีลมหายใจที่หอม สดชื่นอีกด้วย
1. ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงช็อกโกแลตมี เฟนิลไธลามิน, ธีโอโบรไมน์ และกาเฟอีน อีกทั้งช็อกโกแลตสำเร็จรูปที่วางขายกันทั่วไปนั้น มีการแต่งกลิ่นและสี รวมทั้งเพิ่มน้ำตาลเข้าไปไม่น้อยเพื่อให้ขนมมีรสหวานมากๆ และการรับประทานช็อกโกแลตจำนวนมากๆ ก็เท่ากับว่าเราได้รับน้ำตาลมากเกินควร
2. อาจทำให้เกิดโรคอ้วน เพราะช็อกโกแลตให้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินเอ ดี เค และธาตุเหล็กค่อนข้างสูง หากทานมากเกินไป อาจทำให้เป็นโรคอ้วนได้
3. เกิดอาการแพ้ช็อกโกแลต ถ้ารับประทานมากเกินไป จะเกิดสิวกลางจมูก ซึ่งคืออาการแพ้
แต่เมื่อไม่นานมานี้มีการค้นพบสารฟลาโวนอยด์ในช็อกโกแลต
หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมจะมีส่วนช่วยป้องกัน การเกิดโรคหัวใจหรือแม้กระทั่งมะเร็งบางชนิด และยังพบว่ายังมีสรรพคุณช่วยให้คลายเครียด เนื่องจากมีสารไปกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเคมีแห่งความสุขที่ชื่อเอ็นโดรฟินออกมา ช่วยทำให้รู้สึกอารมณ์ดี
ดังนั้น ชาวยุโรปส่วนใหญ่เชื่อว่า การกินช็อกโกแลตจะทำให้สุขภาพแข็งแรงและมีอายุยืนยาว อีกทั้งยังสามารถช่วยลดไข้รักษาอาการอาหารไม่ย่อยและช่วยให้มีลมหายใจที่หอม สดชื่นอีกด้วย
ตำนานของบราวนี่
ตำนานของบราวนี่
มีตำนานอยู่ 3 เรื่องเกี่ยวกับที่มาของบราวนี ตำนานแรกกล่าวว่า พ่อครัวได้ใส่ช็อกโกแลตละลายลงในก้อนแป้งบิสกิตโดยไม่ได้ตั้งใจ ตำนานที่สองกล่าวว่า พ่อครัวลืมเติมแป้งเข้าไปในส่วนผสมของที่ตีรวมกันแล้ว และตำนานที่สามที่เป็นความเชื่อที่เป็นที่นิยมคือ แม่บ้านคนหนึ่งไม่มีผงฟูเลยดัดแปลงสูตรใหม่ ว่ากันว่าเธอเตรียมของหวานสำหรับแขกและตัดสินใจที่จะเสิร์ฟเค้กแบน ๆ ที่อบแล้วนี้ ตำนานทั้งสามเรื่องเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ประวัติของบราวนี่
ประวัติบราวนีช็อกโกแลต
บราวนีช็อกโกแลต มีลักษณะแบนแบบสี่เหลี่ยมหรือบาร์ที่ถูกนำไปอบเริ่มพัฒนาขึ้นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาตอนปลายศตวรรษที่ 19 และเป็นที่ชื่นชอบทั้งในสหรัฐและแคนาดา ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 บราวนีเป็นลูกครึ่งระหว่างเค้กกับคุกกี้ บราวนีถูกผลิตมาในรูปแบบต่าง ๆ บางครั้งก็มีความหนึบหรือเป็นเนื้อเค้กขึ้นอยู่กับความเข้มข้นและอาจจะมีส่วนผสมของถั่วชนิดต่าง ๆ, เคลือบน้ำตาล, วิปครีม, ช็อกโกแลตชิป, หรือส่วนผสมอื่น ๆ อาจจะมีการเปลี่ยนรูปแบบการทำเช่น ใช้น้ำตาลแดงและไม่ใส่ช็อกโกแลต โดยจะเรียกว่าบลอนดี บราวนีมักจะเป็นส่วนหนึ่งของกล่องอาหารกลางวัน เพราะสามารถใช้มือจับทานได้สะดวกและมักจะทานร่วมกับนมหรือกาแฟ บางครั้งก็เสิร์ฟแบบอุ่น ๆ กับไอศกรีม (อาลามอด) ราดหน้าด้วยวิปครีมหรือมาร์ซิแพนหรือโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง บราวนีเป็นที่นิยมอย่างมากในร้านอาหารทั่วไป พบมากอย่างหลากหลายในรายการของหวาน |
คุณค่าทางโภชนาการ
คุณค่าทางโภชนาการ
ประโยชน์ของบราวนี่
บราวนี่เป็นขนมอบที่มีลักษณะ รูปร่าง ตามความต้องการของผู้ผลิต มีส่วนประกอบของแป้งสาลี
น้ำตาล ไข่ นม ไขมัน และสิ่งปรุงแต่งให้เกิดชนิดของเค้กเช่น ผลไม้ต่างๆ
ดังนั้นเค้กจึงเป็นขนมที่ให้ประโยชน์กับผู้บริโภค โดยได้รับสารอาหาร คือ
• แป้ง น้ำตาล ให้สารอาหารคาร์โบไฮเดรท ซึ่งเป็นสารอาหารที่ทำให้เกิดพลังงานแก่ร่างกาย
• ไข่ นม ให้สารอาหารโปรตีน ซึ่งเป็นสารอาหารที่สร้างเซลล์เนื้อเยื่อให้กับร่างกาย
• เนย ไขมัน ให้สารอาหารไขมัน ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยในการหล่อลื่นและทำให้ผิวพรรณสดชื่น
นอกจากนั้นเด็กยังสามารถนำไปใช้ในโอกาสต่าง ๆ เช่น วันมงคลสมรส วันเกิด ปีใหม่
และสามารถจัดรับประทานเป็นอาหาร น้ำชา กาแฟด้วย
วันพฤหัสบดีที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2561
HOW TO MAKE
HOW TO MAKE
1. ตวงแป้งเอนกประสงค์ 80 กรัม
2. ตวงผงโกโก้ 25 กรัม
3. ผสมแป้งเข้าด้วยกัน
4. ตวงเนยและนำไปละลายให้พอเหลว
5. ตวงน้ำตาลและนำเนยไปผสม
6.นำไข่แดงไปตีร่วมกับใส่สีผสมอาหารและน้ำส้มสายชูและครีมชีส
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)